เด็กชายและเด็กหญิงเล่นอยู่ด้วยกัน เด็กชายมีก้อนหินสวยงามมากมาย ส่วนเด็กหญิงมีลูกกวาดมากมาย เด็กชายบอกกับเด็กหญิงว่า “เราเอาก้อนหินแลกกับลูกกวาดของเธอได้ไหม?” เด็กหญิงตอบตกลงก่อนที่จะนำเอาหินสีสวยมาแลกกับลูกกวาด เด็กชายได้คัดหินเม็ดใหญ่และที่ตนเองชอบที่สุดแอบเก็บไว้ เอาเพียงแต่หินก้อนเล็กๆที่ตนเองไม่ค่อยชอบจำนวนหนึ่งมอบให้แก่เด็กหญิง เด็กหญิงนำลูกกวาดที่เธอมีอยู่ทั้งหมด มอบให้เด็กชายตามสัญญาที่ให้ไว้ คืนนั้น เด็กหญิงนอนหลับฝันดี แต่เด็กชายกลับนอนไม่หลับได้แต่พลิกตัวไปมา เขาเฝ้าแต่คิด เด็กหญิงคงจะทำเหมือนตนเอง เธอต้องแอบซ่อนลูกกวาดไว้แน่ๆ ..................................... “เชื่อใจ” ต่อกันจึงทำให้หลับสบาย หากคุณให้คนอื่นได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณก็มักระแวงว่าคนอื่นให้คุณร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า? นำเอาความจริงใจร้อยทั้งร้อยที่คุณมี มอบให้กับคนรอบข้าง จากนั้น จงหลับอย่างสบายใจไม่ต้องกังวล แม้เราจะรู้ว่า “ความสงสัย”เป็นสิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย ความสงสัยคือที่มาของความไม่ไว้วางใจผู้อื่น คือความไม่เชื่อมั่นในตนเอง คือสิ่งบั่นทอนระหว่างกัน คือการดูหมิ่นในน้ำใจ นี่คือมารทางความคิด! โลกนี้ไม่มีอะไรผิดหรือถูก มีเพียงเหตุต้นและผลตาม เมื่อเราให้ความจริงใจต่อคนรอบข้างไปร้อยทั้งร้อย ก็อย่าได้คาดคิดว่าเขาจะจริงใจต่อเราหรือไม่ โลกมีแรงดึงดูด วันหนึ่งกฎแห่งธรรมชาติจะเหวี่ยงสิ่งที่คุณให้กับคนอื่นกลับมาหาคุณอีกครั้ง ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงสักการะคือสิ่งที่ตอนเกิดไม่ได้นำมา เมื่อยามตายไปเอาไปไม่ได้ คุณธรรมต่างหากที่คงอยู่อย่างแท้จริง ผู้มีคุณธรรมย่อมคงอยู่นิจนิรันดร์ เมื่อคุณให้ความจริงใจกับทุกคน คุณก็นอนหลับสบาย ไม่ผวาตื่นกลางดึกอีกต่อไป